Promotions

New Promotions

Early Bird 899 บาท ต่อวัน (สำหรับ รถ Vios ,Yaris, City,Jazz)
หมดเขต 31 มีนาคม 2554 ติดต่อจอง 02 266 4666 หรือ www.hertzthailand.com

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แนะนำ "ผ้าทอ ไทลื้อ"


ชาวไทลื้อมีการทอผ้าขึ้นด้วยวิธีการทอแบบต่างๆหลายชนิด
เช่น ขิด จก มัดหมี่ เป็นต้น และยังมีวิธีการทอผ้าของชาวไทลื้อ
ที่ไม่ใคร่นิยมใช้ทอกันนักในกลุ่มตระกูลไทลาวอื่นๆ วิธีทอผ้านี้
ชาวไทลื้อที่จังหวัดน่านเรียกว่า วิธีล้วง ส่วนชาวไทลื้ออำเภอเชียงของ
จังหวัดเชียงรายและอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เรียกวิธีนี้ว่า วิธีเกาะ ผ้าที่ทอขึ้นด้วยวิธีเกาะล้วงจึงเป็นผ้าที่นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทลื้อ นอกจากสตรีจะนุ่งผ้าซิ่นลายขวางลำตัวประดับด้วยขิด
หรือจกตามแบบของชาวไทลื้อแล้ว จะต้องสวมเสื้อสีครามรัดรูป
แขนกระบอกยาว เอวลอย คอกลมผ่าอติดกระดุมเงิน
หลายเม็ดเป็นแถวจำนวนมาก เรียกว่า เสื้อปั๊ด ซึ่ง
เป็นเสื้อของชาวลื้อโดยเฉพาะ โพกศรีษะและมีเครื่องประดับทำด้วยเงิน

ใครสนใจซื้อและดูวิธีการทอของชาวไทลื้อ สามารถขับรถไปซื้อได้ด้วยตนเองครับ จะได้ในราคาที่พอใจครับ ที่ บ้านหาดบ้าย อ.เชียงของ จ.เชียงราย


แผนที่

วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แนะนำ"รวมหมู่บ้านชาวเขา และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว"

เที่ยวชม - อาข่า เย้า ลีซอ กะเหรี่ยงคอยาว กะเหรี่ยง ลาหู่ - บริการที่พักแบบ Home Stay - ศึกษาวัฒนธรรม - ศึกษาการเพาะปลูก/เกษตรกรรม/การทำนา - บริการที่พักแบบกางเต้นท์ Camping ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม แวดล้อมด้วยความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าต่างๆ - นั่งเกวียน
เที่ยวชม
- Akha village (อาข่า)
- Yao village (เย้า)
- Lisu village (ลีซอ)
- Palong village (กะเหรี่ยงคอยาว)
- Karen village (กะเหรี่ยง)
- Lahu village (ลาหู่)
- Long Necked (กะเหรี่ยงคอยาว)
- Home Stay (บ้านพักแบบโฮมสเตย์)
- Culture (ศึกษาวัฒนธรรม)
- Farming (ศึกษาการเพาะปลูก/เกษตรกรรม/การทำนา)
- Camping (ลานตั้งแคมป์)
- Trekking (เดินป่า)
- Sight Seeing (ทัวร์รอบเมือง)
- Buffalo-ox-cart (นั่งเกวียน)
บริการที่พักแบบ Home Stay
บริการที่พักแบบกางเต้นท์ Camping ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม
แวดล้อมด้วยความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าต่างๆ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมหมู่บ้านชาวเขา และหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว จ.เชียงราย เลขที่ 40 ม. 6 บ้านป่าอ้อ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย
โทร / แฟ็กซ์ 053-705337,053-714380
แผนที่
ขออภัยด้วยนะครับพอดีแผนที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่เส้นทางไปทางนี้เลยครับ

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แนะนำ "ถนนคนเดิน"

สวัสดีครับ ท่านที่สนใจเช่ารถเที่ยวทุกท่าน วันนี้ผมขอแนะนำ "ถนนคนเดินนะครับ" งานนี้ ชื่องานเต็ม ๆ ว่า "กาดเจียงฮายรำลึก" หรือ ตลาดเชียงรายรำลึก นั่นเอง มีสโลแกนว่า "แอ๋วแบบเมือง กิ๋นแบบเมือง อู้กำเมือง ตี้ถนนคนเดิน " แปลเป็นภาษากลางว่า " เที่ยวแบบชาวล้านนา กินแบบชาวล้านน้า พูดภาษาล้านนา ที่ถนนคนเดิน " จะจัดเฉพาะวันเสาร์ ครับ เวลา 16:00-24:00 น. ในตัวเมืองเชียงรายเลยครับ
ผมมีคลิปตัวอย่างมาให้ชมครับ คลิปตัวอย่าง ประมาณ 4 นาทีครับ

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แจ้งข่าว หมด Promotion free ค่า Drop Charge !


สวัสดีครับ ทุกท่านที่สนใจเช่ารถ
ที่ผมเคยได้แจ้งไปครั้งก่อนสำหรับใครที่ต้องการเช่ารถ จากเชียงรายแล้วไปคืนเชียงใหม่ แล้วไม่มีค่าคืนต่างสาขานั้นตอนนี้ได้มี ลูกค้าใช้สิทธิ์นั้นไปแล้วนะครับ เดี๋ยวครั้งหน้าถ้ามีโปรโมชั่นดี ๆ อีกผมจะรีบโพสลงบล็อกนี้ครับ


ขอบคุณที่ให้การสนใจครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อาหารเหนืออร่อย "แหนม"


สวัสดีครับ วันนี้ผมขอแนะนำแหนมครับ พูดแล้วน้ำลายไหล ขอบอกครับ อร่อยครับ
แหนม เป็นอาหารพื้นเมือง ที่นิยมบริโภค กัน โดยทั่วไป ในท้องถิ่นภาคเหนือ และความ นิยม ก็ได้แพร่หลาย ไปยัง ประชาชน ในภูมิภาค
แหนมเป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อ โดยวิธีการหมัก ประชาชนนิยม รับประทานกันมาก เพราะแหนมมีคุณค่าโภชนาการ ที่มีประโยฃน์ต่อร่างกาย การทำแหนมไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เทคโนโลยี
แหนมยังสามารถนำมาทำยำ เช่น ยำแหนม หรือ ยังสามารถดัดแปลงทำเป็นเมนูอื่นๆ ก็อร่อย เช่นแหนมทอด แหนมปิ้ง ย่าง โดยส่วนมากแล้ว ร้านอาหารดัง ๆ ในเชียงรายมักนำ แหนม มาทำเป็น ออเดอฟ (พิมพ์ผิดขออภัยครับ) ทุกเมนูสำหรับคนชอบทาน อร่อยหมดครับ สำหรับ คนที่ชอบรสจัดหน่อย ทานแหนมกับพริกสด และกระเทียมเข้าไปด้วยรับรอบ จี๊ด ครับ เผ็ดถึงใจครับ
มาเชียงรายอย่าลืมลองสั่งเมนูแหนมดูนะครับ
ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แหล่งท่องเที่ยว "ดอยวาวี ดอยช้าง ดอยกาดผี"

บ้านดอยช้าง ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย 57180 เดิมเป็นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าม้ง ปี พ.ศ. ๒๔๕๘ ชนเผ่าลีซอได้อพยพเข้ามาตั้งเป็นหมู่บ้านดอยช้าง ปี พ.ศ.๒๕๒๖ ชนเผ่าอาข่าได้เข้ามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอยช้าง

ชื่อ "บ้านดอยช้าง" ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก หันหน้าไปทางทิศเหนือ(ตัวจังหวัดเชียงราย) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่บริเวณโรงเรียนบ้านดอยช้าง มี ผาหัวช้าง สูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 18 องศาเซลเซียส


การเดินทางขึ้นสู่ดอยช้าง การเดินทาง มีเส้นทางขึ้นได้ ๓ สาย คือ๑.สายอำเภอแม่สรวย -บ้านตีนดอย-แสนเจริญ-ดอยล้าน-ดอยช้าง {ระยะทาง ๒๘ กิโลเมตร (จากเชียงราย ๗๕ กิโลเมตร) }๒. สายห้วยส้าน (อ.แม่ลาว) -ห้วยส้านลีซอ - เกษตรฯ- ดอยช้าง {ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร }๓. สายอำเภอแม่สรวย-บ้านตีนดอย- ริมเขื่อนแม่สรวย - ทุ่งพร้าว - ห้วยไคร้ - ดอยช้าง {ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร}


จากเชียงราย เดินทางมาตามทางหลวงหมายเลข 118 ถึงบ้านตีนดอย ก่อนถึง อ.แม่สรวย ราว 10 กิโลเมตร แยกขวาเข้าที่บ้านตีนดอยไปยังบ้านทุ่งพร้าว ระยะทาง 20 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่บ้านดอยช้าง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เมื่อมาถึง

จุดชมวิวดอยช้าง บริเวณโดยรอบถูกประดับด้วยดอกไม้เมืองหนาวออกดอกสีสดใสตลอดเส้นทางเข้าดอยช้างจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระ หรือนางพญาเสือโคร่ง สีขาวอมชมพู

และได้ตื่นเต้นกับ ดอกท้อ สีชมพูอ่อนและผลท้อที่กำลังเติบโต ลูกเท่าหัวแม่มือที่หาดูได้ยาก และที่นี่เป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่จะมีโอกาสได้เห็น ดอกซากุระขาวบาน ทั่วดอยด้วยเช่นกัน ในบริเวณจุดชมวิวทัศนียภาพโดยรอบสามารถมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนกันไปอย่างสวยงาม มองเห็นไปถึงเมืองยองในประเทศพม่า และชัยภูมิที่ตั้งของ อ.เมือง จ.เชียงราย

จากจุดชมวิวดอยช้าง เดินทางต่อมาอีกราว 2 กิโลเมตร ก็จะถึง พุทธอุทยานดอยช้าง ซึ่งมีหลวงพ่ออำนาจ สีลคุโณ ได้มาปฏิบัติธรรมจำพรรษาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 เป็นผู้ดูแลรักษาพุทธอุทยาน ดอยช้าง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติของป่าไม้ไว้ได้อย่างสมบูรณ์มาก มีบึงน้ำขนาดใหญ่อยู่กลางพุทธอุทยาน มีสีเขียวมรกตบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย

มีเสียงกบเขียดร้องอยู่ตลอดเส้นทางเดินไปสู่ ลานพุทธสถานที่มีพระพุทธรูปปางต่างๆไว้ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา ถัดจากลานพุทธสถานก็มุ่งตรงสู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีน้ำไหลเข้าไปในบ่ออยู่ตลอดเวลาไม่เคยเหือดแห้ง

และน้ำก็ยังใสสะอาดเย็นฉ่ำตลอดทั้งปี น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธอุทยานดอยช้างแห่งนี้ เป็น 1 ใน 9 ของน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปกระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพุทธมังคลาภิเษก เนื่องในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา

นอกจากนั้นสามารถชม ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย (สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวี) และ ชมทะเลหมอกบนดอยกาดผี ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร เล่ากันว่าในช่วงฤดูหนาว
สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้รอบทิศ 360 องศา ลงจากดอยกาดผี จากนั้นสามารถเดินทางไปชม สวนชาของตำบลวาวี ซึ่งว่า เป็นการปลูกชาครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มต้นที่ดอยวาวีแห่งนี้ก่อนเป็นที่แรก และยังมีต้น ชาพันปี อยู่ที่กลางป่าในเขตบ้านใหม่พัฒนา ขนาด 3 คน โอบ และชม สวนส้มพันธุ์สายน้ำผึ้งก่อนเดินทางไปบ้านวาวีเพื่อ
ชมวิถีชีวิตชนเผ่า ที่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสงบอยู่รวมกันอย่างสมานฉันท์ เอื้ออาทรต่อกันทั้งหมด 13 ชนเผ่า และมีโรงเรียนสอนภาษาจีนชื่อ โรงเรียนกวางฟูวิทยาคม ตั้งอยู่ที่นี่ เด็กนักเรียนตำบลวาวี สามารถเรียนภาษาจีนได้ฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก จึงเป็นแหล่งผลิตผู้ที่มีความรู้ทางด้านภาษาจีนอย่างดีเยี่ยมเพราะมีครูจากไต้หวันมาสอนให้โดยเด็กนักเรียนต้องพูดภาษาจีนกันทุกคนภายในโรงเรียน เมื่อเรียนถึงขั้นสูงยังมีทุนให้ไปเรียนต่อยังประเทศไต้หวันอีกด้วย....

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

!ด่วน Free ค่า Drop Charge ก่อน 24 กพ. 2552

สวัสดีครับ ท่านผู้สนใจเช่า รถไปเที่ยวเชียงใหม่

สำหรับใครที่ต้องการเช่ารถจากเชียงรายแล้วไปคืนรถที่เชียงใหม่ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับลูกค้า Hertz โดยเฉพาะ เช่ารถ Honda Civic ในราคาวันละ 1,580 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมประกันชั้น 1 ) ตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป ฟรีค่า Drop Charge (ราคา 1,500 บาท) ตั้งแต่วันนี้จนถึง 24 ก.พ.2552 นี้เท่านั้น ด่วนครับ !

แนะนำอาหารอร่อย "แคบหมู"

สวัสดีครับ ท่านผู้สนใจเช่ารถทุกท่าน

ใครที่มาเชียงราย สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ แคบหมู

แคบหมู เป็นอาหารพื้นบ้าน ของชาวล้านนาไทย การทำแคบหมู เป็นวิธีการแปรรูป และถนอมอาหาร ที่เกิดจาก ภูมิปัญญาชาวบ้าน สืบทอดกันมา เป็นเวลาช้านาน แคบหมู

นิยมใช้เป็นของฝาก เมืองเหนือที่มีคุณค่า ทั้งผู้ให้ และผู้รับ และเป็นผลผลิต จากการนำหนังหมู มาผ่านกรรมวิธีการทอด

จนได้ลักษณะกรอบ พอง มีกลิ่นหอม รสกลมกล่อม ใช้รับประทาน เป็นอาหาร ประเภทเครื่องเคียง กับน้ำพริกเมืองเหนือและแกงคั่วต่าง
.

สำหรับร้านที่จำหน่ายมีหลายร้านให้เลือกในเชียงรายครับ
แหนมธีรพัฒน์ ซอยละลายทรัพย์ หน้าวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย โทร. 053-742520, 081-8844597, 081-8849713

แคบหมูพีไล ผลิตและจัดจำหน่าย โดย พี่ไล 684 หมู่ 25 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย 57120 สถานที่จัดจำหน่าย- สาขา 1 ตลาดสดเทศบาลเมืองพาน เวลา 6 โมงเช้า - 11.00 น. - สาขา 2 ตลาดสดหกแยก เวลา 6 โมงเช้า - 6 โมงเย็น ทุกวัน สนใจติดต่อได้ที่ 087-189-7293 หรือ 053-658183

ร้านแหนมนันทวัน (ก๋องคำ) 68/4 หมู่ 2 (เชิงสะพานแม่น้ำกก) ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย 57000โทร. 053-751133, 086-1888200 แฟกซ์ 053-751116 Email: order@namnuntawan.com

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แหล่งท่องเที่ยว "พระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน"

สวัสดีครับ ท่านผู้สนใจเช่ารถทุกท่าน วันนี้ผมมี สถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับท่านที่ชอบทำบุญเป็นอย่างยิ่ง "พระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน "



น้ำโขงไหลผ่านทวีปนี้ราวกับมีชีวิต 10 ปี ไหลไปทางหนึ่ง 100 ปี ไหลไปอีกทางหนึ่ง เปลี่ยนทางไปอีกทางหนึ่ง มีตำนานเล่าว่าถึงเกาะเก่าแก่กลางลำแม่น้ำโขง “เกาะดอนแท่น” เดิมทีเป็นผืนดินในไทยโดยเป็นทีอาศัยของผู้คนเชียงแสนในยุคก่อน เกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดกว่า 10 วัด



ตามที่ระบุไว้ในพงศาวดาร เมืองงินยางเชียงแสนภาคที่ 61 ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของ วัดพระเจ้าทองทิพย์ อันเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระพทุธรูปสำริดขนาดใหย่ ซึ่งชาวบ้านกล่าวขานนามว่า “พระเจ้าล้านตื้อ คำว่า ตื้อ คือมาตราวัดของชาวล้านนา หมายถึงโกฏิ ดังนั้นคำว่า " ล้านตื้อ" ก็หมายถึงองค์พระนี้มีขนาดและน้ำหนักมาก สันนิฐานว่าองค์พระคงจมลงไปพร้อมกับเการะดอนแท่น ซึ่งปัจจุบันคือบริเวณน้ำโขงหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน



ประจักษ์พยานที่เป็นรูปธีทชัดเจนคือ พระรัศมีพระเจ้าล้านตื้อ ซึ่งมีขนาดกว้าง 55 CM สูง 70 CM คาดกันว่าพระรัษมีถูกงมชึ้นมาก่อนปี พ.ศ. 2446 และมีการประมาณว่าพระเจ้าล้านตื้อหากมีอยู่จริง หน้าคักคงกว้างประมาณราว 8.5 m สูง 10 m อย่างไรก็ตามคำเล่าขานจึงไม่ใช่เรื่องที่ฝังนิ่งอยู่ในตำนานแต่เป็นเรื่องจริงต้องรอคอยว่าวันหนึ่งองค์พระเจ้าล้านตื้อจะกลับมาสู่เมือง วิธีการกลับคืนมาสู่เมืองจะเป็นอย่างไร คงต้องรอติดตามอย่างใจจดใจ่อ ส่วนจะกลับมาในรุ่นเรา รุ่นลูก หรือรุ่นหลาน หรือกว่านั้น ก็ต้องรอคอยด้วยในอันศรัทธาเหมือนกัน



ตามรอยพระเจ้าล้านตื้อ

จากคำบอกเล่าของชาวเชียงแสน ที่บรรทุกไว้ในหนังสือตามรอยพระเจ้าล้านทองทิพ (พระเจ้าล้านตื้อ) ประวัติศาสตร์ลำน้ำโขงเมืองเชียงแสน (หาซื้อได้ ที่พิพิธภันฑ์สถานแห่งชาติ เชียงแสน กล่าวว่าคืนพบพระพุทธรูปกลางลำน้ำโขงครั้งแรกเมือราวปี พ.ศ. 2479 พรานหาปลา ผู้หนึ่งทอดแหหาปลาอยู่กลางน้ำโขงบริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงแสน

ได้เห็นพระพุทธรุปขนาดใหญ่โพล่ขึ้นมากลางน้ำจำได้ว่ามีพระรัศมีบนพระเกศาและเห็นส่วนพระเศียรเพียงแค่พระหนุ แต่อย่างไรก็ตาม การพบเห็นของพรานปลาผู้นั้นขัดกับหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ที่ว่าการค้นพบพระรัศมีนั้นพบก่อน ปี พ.ศ.2446 เมื่อครั้งแรกได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดคว้าง (หลังตลาดเชียงแสน) ต่อมาย้ายไปรักษาที่วัดปงสนุก และวัดมุงเมืองตามลำดับ เมื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ เสร็จจึงนำออกแสดงจนมาถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2488 มีพรานปลาอีกคนหนึ่งพบเสาวิหารขนาดใหญ่จำนวน 2-3 ต้นล้มทับกันจมอยู่ในน้ำโขง ลึกลาว 4 เมตร ที่บริเวณสามแยกหน้าสถานีตำรวจครั้นถึงปี พ.ศ. 2492 – 2493 เพียสมบูรณ ์(ชาวลาวอพยพมาตั้งถิ่นฐานในอำเภอเชียงแสน) ฝันว่าพระพุทธรูปล้มคว่ำพระเศียรลง หันไปทางทิศใต้ ดังนั้นราวเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ของปีเดียวกันนั้น

จึงมีการลงคลำหาพระพุทธรูปกันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากตั้งศาลเพียงตาขึ้นในบริเวณเกาะดอนแท่นและทำพิธีบวงสรวงพระพุทธรูป เตรียมเรือเหล็กขนาดใหญ่ 2 ลำ พร้อมช้าง 3 -4 เชือก นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธี เนื่องจากกระแสน้ำแรงและเย็นมากจึงไม่อาจพบพระรูปแต่อย่างใดต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคม พ.ศ. 2509 อิตาเลียน – ไทย จำกัด ได้สัมปทานการสร้างสนามบินในหลวงพระบาง มาพักอยู่ที่เชียงแสน(สมัยนั้นการเดินทางไปหลวงพระบางต้องใช้วิธีการเดินเรือจากเชียงแสนไปถึงจะสะดวกที่สุด)

นายชูสง่า ไชยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขณะนั้นจึงได้ให้ทางบริษัทฯ ดังกล่าว ส่งนักประดาน้ำและอุปกรณ์ต่างๆดำเพื่อค้นหาและกู้เอาพระพุทธรูปขึ้นมา ซึ่งเป็นจุดที่เกาะกลางน้ำตรงหน้าสถานีตำรวจฯบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำวน เชี่ยวมาก นักประดาน้ำทนความเย็นไม่ไหว การค้นหาในตอนนั้นจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ได้เพียงพระพุทธรูปองค์เล็ก และโบราณวัตถุอื่นๆอีกเพียงเล็กน้อยจึงหยุดค้นหาการค้นหาพระพุทธรูปที่จมอยู่ในลำน้ำโขง ตั้งแต่การพบครั้งแรกจนกระทั้งถึงทุกวันนี้กว่า 70 ปีแล้วเรื่องราวยังเป็นที่สนใจและถูกเล่าขานผ่านลูกหลานชาวเชียงแสน เมื่อสืบทอดผ่านกันมาจึงกลายเป็นตำนานและนิทานพื้นบ้าน


พระพุทธรูปนวล้านตื้อ (จำลอง) หากท่านที่ไปเที่ยวเชียงแสนผ่านไปทางป้ายสามเหลี่ยมทองคำ เลยไปทางร้านค้าของที่ระลึกต่างๆ ท่านจะได้พบเห็นองค์พระพุทธรูปสีทองขนาดใหญ่ น้ำหนักกว่า69 ตัน เฉพาะองค์พระตักกว้าง 9.99 เมตร สูง 15.99 เมตร ประทับอยู่บนเรือนแก้วกุศลธรรมขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีตุง(ธง) เฉลิมพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมราชินีนาถฯ อยู่เบื้องข้าง พระพุทธรูปองค์นี้คือ พระพุทธนวล้านตื้อพระพุทธนวล้านตื้น องค์นี้เป็นพระเชียงแสนสี่แผ่นดินเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งได้สร้างขึ้นแทนองค์เดิมที่จมลงแม่น้ำโขง หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน สมัยรัชกาลที่ 3 โน้น...และสร้างขึ้นด้วยทองสัมฤทธิ์ ปิดทองด้วยบุศราคัม น้ำหนักถึง 69 ตัน หน้าตักกว้าง 9.99 ม.สูง 15.99 ม. ประทับนั่งบน "เรือแก้วกุศลธรรม" ขนาดใหญ่ อย่างที่เห็นในรูปที่ 1 นั่นแหละครับ..พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างตุงหลวงเฉลิมพระเกียรติ สูง 17.99 ม. ศูนย์ OTOP ล้านนา ซุ้มประตูโขงและพระมหาโพธิสัตว ์(เจ้าแม่กวนอิมหยกขาว สูง 9.99 ม.) ทั้งหมดนี้ได้ใช้งบประมาณถึง 69 ล้านบาท

แผนที่

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แหล่งข้อมูล http://www.chiangraifocus.com

แนะนำ "ทุ่งดอกทานตะวัน"

สวัสดีครับ จังหวัดเชียงรายมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เราน่าจะไปเที่ยวให้ทั่ววันนี้ผมขอเสนอ อีกที่หนึ่งนะครับ คือ ทุ่งดอกทานตะวัน ที่อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย

ทานตะวันจะบานปลายเดือนธันวาคม ถึงกลางเดือนมกราคม ทุกปีจะมีงานทุ่งทานตะวันบานที่เวียงเชียงรุ้ง จัดงานประมาณช่วงเดือน ธันวาคม ของทุกปี มีกิจกรรมการแสดงของท้องถิ่น การแข่งขันวิ่งมาราธอน โดดร่มดิ่งพสุธาท้าลมหนาว แรลลี่ และกิจกรรมนั่งรถอีแต๋นชมทุ่งทานตะวัน สอบถามที่ที่ว่าการ กิ่ง อ. เวียงเชียงรุ้ง โทร. 053-953451

แผนที่



ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อุปกรณ์นำทาง "GPS"

สวัดีครับ ท่านผู้สนใจรถเช่าทุกท่าน GPS เป็นอุปกรณ์ช่วยนำทางให้เราไปถึงจุดหมายปลายทางได้ง่ายขึ้น



จีพีเอส (GPS) ย่อมาจาก Global Positioning System หมายถึง ระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลก โดยอาศัยการคำนวณพิกัด ยูทีเอ็ม (UTM) จากสัญญาณนาฬิกาที่ส่งมาจากดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก ซึ่งมีตำแหน่งที่แน่นอน ระบบนี้สามารถบอกตำแหน่ง ณ จุดที่สามารถรับสัญญาณได้ทั่วโลก โดยเครื่องรับสัญญาณจีพีเอส รุ่นใหม่ๆ จะสามารถคำนวณความเร็วและทิศทางนำมาใช้ร่วมกับโปรแกรมแผนที่ เพื่อใช้ในการนำทางได้


อุปกรณ์ตัวนี้นะครับในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่ามันเยี่ยมไปเลยครับ เราสามารถไปได้ทุกที่ไม่หลงทางด้วยครับ
ใครสนใจซื้อ ลองเข้าไปดูในนี้เลยนะครับ เลือกเอาตามใจชอบครับ

ที่ตั้งของเค้าเตอร์ Hertz เชียงราย

สวัสดีครับท่านผู้สนใจเช่ารถทุกท่าน

มีบางครั้งนะครับที่ลูกค้าโทรสอบถามมาว่า เค้าเตอร์อยู่ในสนามบินหรือเปล่า เค้าเตอร์ของ Hertz อยู่ในตัวเมืองครับ ใกล้กับท่ารถ บขส. หรือ ไนบราซ่า เรามีรูปมาให้ดูครับ อยู่ห่างจากสนามบินเชียงรายประมาณ 12 กิโลเมตร ครับ แต่เรามีบริการสำหรับลูกค้าครับ รับ-ส่งรถที่สนามบินฟรีครับ และฟรีรับ-ส่งรถนอกสถานที่ ภายในรัศมี 15 กิโลเมตรครับ


ทางเข้าครับ เข้าทางเดียวกับที่มาโรงแรมวังคำครับ



เค้าเตอร์เราอยู่ในโรงแรมวังคำครับ

แต่ในอนาคตข้างหน้าทาง Hertz เชียงรายมีโครงการจะไปเปิดเค้าเตอร์ในสนามบินครับ

ขอบคุณครับที่ให้การสนใจ

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อาหารเหนือ "ข้าวซอยไก่"

สวัสดีครับ ผู้ที่สนใจเช่ารถทุกท่าน วันนี้ผมมี เมนูอาหารของทางเหนือ มาแนะนำครับ นั่นคือ ข้าวซอยนั่นเอง





ผมเห็นรู้แล้วน้ำลายจะไหลเลย อร่อยครับ ขอบอก มารู้จักเข้าซอยกันก่อนครับ



ข้าวซอย คืออาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย เดิมเรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ

เป็นอาหารที่คล้ายเส้นบะหมี่ ในน้ำซุปที่ใส่เครื่องแกง รสจัดจ้าน ในตำรับดั้งเดิม ข้าวซอยจะมีส่วนประกอบของเนื้อหมูหรือเนื้อไก่หรือเนื้อวัว มีเครื่องเคียงได้แก่ ผักกาดดอง หอมหัวแดง และมีเครื่องปรุงรส

เช่น พริกผัดน้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ปัจจุบันอาจเพิ่มอาหารทะเลหรือเต้าหู้เป็นส่วนประกอบ อาหารจานนี้มักไม่ค่อยมีจำหน่ายในร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จะพบบ่อยก็แต่ทางภาคเหนือของไทย

สำหรับร้านที่ขึ้นชื่อในจังหวัดเชียงราย ก็มี

  1. ข้าวซอยพอใจ หลังโรงแรมวังคำ อ.เมือง จ.เชียงราย โทร.0 53-712935
  2. ข้าวซอยป้านางคำ ปากทางขึ้นดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
  3. ข้าวซอยไก่นางแล ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย
  4. ข้าวซอยอิสลาม อ.เมือง จ.เชียงราย โทร.053-733026

เดี๋ยวเจอที่ไหนอร่อย ๆ จะมาอัพเดทเพิ่มให้นะครับ ใครสนใจเช่ารถไปทานได้นะครับ ช่วงนี้ราคา Low Season เลยครับ

วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

New ! Promotion สำหรับบัตร Credit Card ประจำเดือน Feb 2009

สวัสดีครับ สำหรับผู้สนใจเช่ารถที่มองหารถคุณภาพดีในราคาถูก ตอนนี้ ทาง Hertz ได้ออกโปรโมชั่นสำหรับ บัตรเครดิตการ์ดในเดือน กุมภาพันธ์ 2552 ออกมาแล้วนะครับ

ติดต่อสอบถาม จองรถ หรือรายละเอียดเกี่ยวกับ โปรโมชั่น ข้างบน ติดต่อเบอร์ ข้างล่างได้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แนะนำ " หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ"

หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของพืชชนิดนี้ จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง พื้นที่ 5,600 ตารางเมตรแสดงลำดับเรื่องราวของฝิ่น โดยเริ่มจากธรรมชาติวิทยาของฝิ่น การสืบประวัติการใช้ฝิ่นในยุคโบราณกลับไป 5,000 ปี ประวัติการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าสมัยจักรวรรดินิยม เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ที่สร้างความอดสูแก่ผู้ชนะและผู้แพ้สงครามฝิ่นอันนำไปสู่การล่มสลายของราชวงค์แมนจู ความชาญฉลาดของประเทศสยามในการเผชิญกับมหาอำนาจตะวันตกและการควบคุมปัญหาฝิ่น



นิทรรศการภายในของหอฝิ่นประกอบด้วย


อุโมงค์มุข (TUNNEL) นิทรรศการเริ่มตั้งแต่อุโมงค์ที่มืดสนิท ดูลึกลับที่มีความยาว 137 เมตร ซึ่งเจาะทะลุภูเขาทางด้านตึกรับรองไปถึงตัวอาคารใหญ่อีกฟากหนึ่ง ที่กว้าง สว่าง ลม โปร่ง และเป็นทุ่งฝิ่นจำลอง


ห้องโถง (LOBBY) ผู้คนจะได้เห็นทุ่งฝิ่นจำลอง และศึกษาเรื่องราว และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพันธุ์ต่างๆของดอกป๊อปปี้ทั้งที่เป็นพันธุ์สวยงามและเป็นพันธุ์ที่ใช้กรีดเอายางมาผลิตเป็นยา การเจริญเติบโตในระยะต่างๆของดอกป๊อปปี้ รวมทั้งการเปาะแห้งของดอกป๊อปปี้ที่ใช้ประโยชน์ในการตกแต่งดอกไม้แห้งประดับ



ห้องประชุม (AUDITORIUM) ห้องโสตทัศนศึกษาในห้องนี้มีการจัดฉาย VTR เล่าถึงที่มาจุดประสงค์และเรื่องราวที่บรรจุในการจัดหอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ

ปัญจสหัสวรรษแรก (THE FIRST 5,000 YEARS) ผู้ชมจะเดินทางเข้าสู่การแกะรอยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของพืชพิเศษประเภทนี้ การแกะรอยประวัติศาสตร์ของฝิ่นเริ่มต้นจากการกำเนิดของฝิ่น บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยมีหลักฐานการค้นพบครั้งแรกที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตลอดจนหลักฐานที่มีการเขียนเป็นรายลักษณ์อักษรชิ้นแรกในตำราทางการแพทย์ SUMERIAN และการใช้เชิงการแพทย์ และการศาสนาในกรีกโบราณ โมและ อียิปต์ ได้มีการใช้ฝิ่นซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิผลที่ต่ำมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน

มีดสองคม (LIGHT AND DARK HALLWAY) ผนังสองด้านของทางเดินเชื่อมต่อนี้จะถูกออกแบบให้สะท้อนถึงด้านดีและด้านร้ายที่ได้จากการใช้ ”ฝิ่น” - ด้านที่ดี จะเป็นด้านที่สว่างเห็นภาพของการใช้ยาที่ได้จากการสกัดจากฝิ่น เพื่อประโยชน์จากการรักษาและบรรเทาอาการเจ็บปวด ผลผลิตที่ได้จากดอกป๊อปปี้ เช่น สินค้า เค้ก ขนมปัง ดอกไม่ประดับ - ด้านร้าย เป็นด้านที่มืดจะเห็นอาการที่ทุกข์ทรมานจากการเสพติด ภาพการใช้เข็มฉีดยา และภาพการเสื่อมโทรมทางกายภาพของผู้ติดยา

ประจิมสู่บูรพา (FROM WES TO EAST) ต่อจากนั้นผู้ชมจะก้าวเข้าสู่ยุคของการค้าระหว่างจักรวรรดิยุโรปกับเอเชีย เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าฝิ่นเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์อย่างไรและฝิ่นกลายเป็นสารเสพติดที่แพร่หลายในวงกว้างอย่างไร โดยจำลองฉากท่าเรือพาณิชย์อังกฤษผู้ชมจะเดินทางผ่านห่อใบชา ผ้าไหม เครื่องลายคราม และเครื่องเทศ อันเป็นสินค้าของตะวันออกและวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวอังกฤษ และเป็นสาเหตุของการขาดดุลการค้าอย่างมหาศาลเกือบทำให้ประเทศนี้เกือบล่มสลาย ต่อจากนั้นจึงเดินทางเข้าสู่เรือสินค้าของยุโรปที่ออกเดินทางจากอังกฤษมาอินเดียพร้อมทั้งชมโรงงานฝิ่นในอินเดีย เรือบรรทุกสินค้าจะหยุดพักที่เมืองสิงคโปร์เพื่อเติมเสบียง และขนถ่ายสินค้าบางส่วนลงเรือขนาดเล็ก สู่ท่าเรือท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมืองสงขลา และจันทบุรี เมืองสิงคโปร์จึงกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างอินเดียและจีน ก่อนที่จะรวมการเดินทางราวติดปีกของฝิ่นมาสู่ประเทศจีนที่ท่าเรืออันเป็นหัวใจของจีน กวางตุ้ง




ศึกยาฝิ่น (OPIUM WARS) ร่องรอยประวัติศาสตร์นี้จะนำนักท่องเที่ยวสู่ความขัดแย้งที่รู้จักกันในนาม “ สงครามฝิ่น “ เมื่อชาวอังกฤษบังคับให้จีนเปิดประเทศเข้าสู่การค้าเสรีและภายใน ค.ศ. 1900 คนจีนกว่า 13 ล้านคน ติดฝิ่นเศรษฐกิจของจีนถูกทำลายลงอย่างย่อยยับจากการที่จีนต้องนำเข้าฝิ่นเป็นจำนวนมากมายมหาศาลและราชวงค์แมนจู(ราชวงค์ชิง) ก็ตกอยู่ในภาวะล่มสลาย ภายในห้องนี้จะเล่าถึงเหตุการณ์ สำคัญรวมทั้งสงครามที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของจีนโดยมีการจัดแสดงหุ่นจำลองของสามบุคลสำคัญของจีนและสามบุคลสำคัญของอังกฤษทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับสงครามฝิ่น ห้องถัดมาจะเป็นการจัดแสดงเหตุการณ์สำคัญสามเหตุการณ์ ได้แก่ การทำลายฝิ่นที่หูเหมินโดยข้าหลวงหลินเจ๋อสวี การเผาทำลายหยวนหมิง – หยวน ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนอายุกว่า 150 ปี การถูกลิดรอนสิทธิและผลกระทบด้านความเป็นอยู่ของชาวจีนหลังสงคราม

ฝิ่นในสยาม ( OPIUM IN SIAM ) เมื่อลองเข้ามาในห้องนี้จะมีเจดีย์รัตนโกสินทร์ตั้งอยู่และจะผ่านเข้าประตูเมือง มีการจำลองโรงน้ำชาจีนในเยาวราชโดยมีหุ่นนอนสูบฝิ่นสองคน ความเป็นมาของฝิ่นในสยาม แม่ฝิ่นจะไม่ได้มีต้นกำเนิดในประเทศไทยแต่ก็มีหลักฐานยืนยันว่าคนไทยรู้จักฝิ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วในสมัยรัชการที่ 1,2 และ3 พระราชบัญญัติห้ามค้าฝิ่นและสูบฝิ่นยังคงถูกประกาศใช้อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ฝิ่นในสยามเริ่มเปลี่ยนแปลงหลังจากอังกฤษรบชนะจีนในสงครามฝิ่น อีกส่วนต่อมาจะจัดแสดงของหายาก เช่น ลูกแป้ง กลักยาฝิ่น หมอน เป็นต้น รวมทั้งพื้นที่จำลองในการเคี่ยวฝิ่น,พระพุทธรูปที่ได้จากการหลอมกลักฝิ่น

ยามหัศจรรย์ (MEDICAL MARVELS) ต่อจากนั้นนักท่องเที่ยวจะได้รู้ถึง พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ ของตะวันตกที่นำไปสู่การแยกตัวของมอร์ฟีน พัฒนาการของเฮโรอีน และการฉีดเฮโรอีนเข้าใต้ผิวหนังชาวตะวันตกส่วนมาจะติดยาแก้ปวดประเภทนี้และยาอื่นๆรวมถึงฝิ่นและยาเสพติดอื่นๆ

ข้อห้ามทางกฎหมาย/อาชญากรรม/การขัดแย้ง ( PROHIBITION/CRIME/CONFLICT) การตามรอยประวัติศาสตร์จบลงด้วยการที่ทั่วโลกต้องหันมาป้องกันฝิ่นและยาเสพติดในช่วงทศวรรษที่ 20 โดยยาเสพติดที่ผิดกฎหมายอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การอาชญากรรมอันเป็นควานพยามของชาวโลกในการร่วมใจพัฒนาเพื่อต่อสู้กับการลักลอบค้ายาเสพติดและการใช้ยาในทางที่ผิด

แหล่งซุกซ่อน (HIDE-OUT HALLWAY ) ต้องการให้ผู้ชมทราบถึงการรู้เท่าทันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจับยาเสพติดว่า ไม่ว่าจะซ่อนไว้ที่ไหนก็ตามก็สามารถจับได้ เช่น การซ่อนไว้ที่รองเท้า ในกระหล่ำปลี เป็นต้น


ผลร้ายของยาเสพติด (EFFECTS OF DRUGS) ผู้ชมจะได้เห็นว่าการติดยาเสพติดเป็นสิ่งที่ทุกข์ทรมานจะเกิดผลร้ายที่กระทบกันอย่างต่อเนื่องทังทางด้านเศรษฐกิจด้านสังคมและตัวผู้เสพเอง ทางด้านร่างกายและจิตใจ ผู้ชมจะได้ทราบถึงยาเสพติดประเภทต่างๆ เช่น ยาเสพติดในกลุ่มฝิ่น,ยากดประสาท,ยากระตุ้นประสาท,ยาหลอนประสาท,กลุ่มสารระเหย ฯลฯ ใครที่คิดว่ายาเสพติดไม่เกี่ยวกับเขาเพราะเขาหรือใครในครอบครัวไม่ติดยา คนนั้นคิดผิดยาเสพติดมีผลกระทบต่อชีวิตทุกคน
การศึกษา (CASE STUDIES) เป็นกรณีศึกษาจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวที่ติดยาเสพติดการจัดแสดงเรื่องราวของครอบครัวที่ตกเป็นทาสยาเสพติดว่าต้องประสบชะตากรรมอย่างไรบ้าง บางครอบครัวก็สามารถเอาชนะได้และบางครอบครัวก็ต้องประสบทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

หลอกตัวเอง/หลอกคนอื่น (GALLERY OF EXCUSES/GALLERY OF VICTIMS) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแก้ตัว แก้ต่าง กล่าวโทษกันไปมา ไม่มีประโยชน์ ไม่มีข้อสรุป สุดท้ายคือความตาย และเรื่องราวที่เกี่ยวกับเอดส์และผู้ตกเป็นเหยื่อ

ห้องคิดคำนึง (HALL OF REFLECTION) ผู้ชมได้มีโอกาสที่ได้อยู่กับตัวเองและตั้งคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจากการชมนิทรรศการทั้งหมด ซึ่งเราหวังว่านักท่องเที่ยวแต่ละท่านที่ได้เข้ามาสัมผัส หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ จะก้าวออกจากนิทรรศการแห่งนี้ไปด้วยความรู้สึกที่ปรารถนาจะมีส่วนร่วมในอันที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป



วันและเวลาดำเนินการ ** วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 8.30 – 16.00 น. ( เวลา 16.00 น. เป็นเวลาขายบัตรรอบสุดท้าย ) ** จำนวนผู้เข้าชมมากสุดไม่ควรเกิน 50 คน/ รอบ ระยะเวลาสำหรับการชมนิทรรศการโดยเฉลี่ย 1-2 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม- คนไทย 200 บาท / คน - คนต่างชาติ 300 บาท / คน - ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 50 บาท / คน - เด็กอายุ 12 – 18 ปี 50 บาท / คน - เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
แผนที่